สัปดาห์นี้คุณได้ชาร์จแบตกายและใจเต็มที่มั้ย?
ในแต่ละสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายเคร่งเครียด เราอาจรู้สึกเหมือนทุกอย่างยุ่งเหยิงจนไม่รู้จะชะลอคันเร่งยังไง แม้ช่วงที่พอมีเวลาว่างก็รู้สึกเหมือนพักไม่เต็มอิ่ม
วันนี้ TUXSA เลยอยากชวนคุณเดินช้าลงสักนิด ด้วยเทคนิคผ่อนคลายกายใจที่จะทำให้ชีวิตคุณสงบสุขอีกครั้ง
มาชาร์จแบตให้เต็มเปี่ยม เพื่อกลับไปเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตต่ออย่างมีพลังกันเถอะ!
7 กิจกรรมผ่อนคลาย ชาร์จพลังให้กลับมาใช้ชีวิตได้ดีกว่าเดิม
1.ฝึกหายใจลึกๆ
เวลากังวลใจ ลมหายใจของเรามักจะตื้นและเร็ว หนึ่งในวิธีผ่อนคลายที่เรียบง่ายที่สุดคือ หายใจลึกๆ หรือที่เรียกว่า หายใจจากท้อง (belly breathing) การหายใจแบบนี้จะช่วยให้หัวใจเราเต้นช้าลง ความดันเลือดต่ำลง และกล้ามเนื้อผ่อนคลายลงได้
วิธีฝึกหายใจลึกๆ
- นั่งเก้าอี้สบายๆ หรือนอนลง วางมือข้างหนึ่งบนท้อง อีกข้างที่หัวใจ
- หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ จนรู้สึกว่าท้องป่องขึ้น
- กลั้นหายใจไว้ นับ 1-3
- หายใจออกช้าๆ รู้สึกถึงท้องที่แฟบลง
2.ทำสมาธิเพื่อผ่อนคลาย
การทำสมาธิเป็นวิธีพักผ่อนที่ดีมากอย่างหนึ่ง นอกจากช่วยรักษาสมดุลการหายใจของเราแล้ว ยังเป็นการผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดและสิ่งรบกวนต่างๆที่ต้องเจอระหว่างวัน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการทำสมาธิก็คือ การโฟกัสที่ดีขึ้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องเรียนต่อทุกคน
โดยการทำสมาธินั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การทำสมาธิด้วยมโนภาพ (Visualization) โดยอาจใช้สิ่งกระตุ้นประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น กลิ่น ภาพ สัมผัสและเสียงประกอบ หรือการทำสมาธิด้วยการฝึกสติ (Mindfulness Meditation) ก็เป็นวิธีทำสมาธิที่นิยม เพื่อให้เกิดสติรู้ตัวและปล่อยวางจากความเครียด นอกจากนี้การทำโยคะหรือชี่กง ซึ่งเป็นการทำสมาธิพร้อมเคลื่อนไหวร่างกายก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผลเช่นกัน เราสามารถนำไปปรับใช้ เพิ่มความหลากหลายของการทำสมาธิให้ไม่น่าเบื่อและยังสามารถทำได้ทุกวันอีกด้วย
3.ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
กิจกรรมนี้คล้ายคลึงกับการทำโยคะ และเป็นการผ่อนคลายร่างกายที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกล้าและเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งคนที่ต้องนั่งเรียนหรือนั่งทำงานนานๆมักจะมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายที่หากปล่อยเรื้อรังก็ส่งผลต่อการเรียนในระยะยาวได้ จึงควรแบ่งเวลามายืดเส้นและคลายกล้ามเนื้อก็ช่วยให้กลับมาเรียนต่อได้ดียิ่งขึ้น
โดยวิธีการคลายกล้ามเนื้อทีละส่วนนั้นมีหลักการง่ายๆคือ เกร็งกล้ามเนื้อก่อนแล้วค่อยปล่อยคลาย อาจเริ่มจากเกร็งจิกเท้าแล้วปล่อยให้ผ่อนคลาย ต่อมาก็ทำเช่นเดียวกันที่ขาโดยให้เกร็งเหยียดเข่าแล้วปล่อยให้ผ่อนคลาย ทำเช่นนี้ขึ้นมาเรื่อยๆที่สะโพก ช่องท้อง อก แขน ไหล่ คอ จนถึงใบหน้า โดยเชื่อว่าการผ่อนคลายกล้ามเนื้อจะส่งผลให้จิตใจผ่อนคลายด้วย ซึ่งจิตใจที่ผ่อนคลายก็ส่งผลย้อนกลับให้มีการคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้รู้สึกสดชื่น มีพลังงานมากขึ้น และกลับไปเรียนต่อได้ดีขึ้นด้วย
4.ฝึกโยคะ
เทรนด์การออกกำลังกายอาจผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่โยคะคือหนึ่งในศาสตร์เก่าแก่ที่ช่วยให้สุขภาพทั้งกายและใจของเราแข็งแรง ด้วยการผสมผสานจังหวะหายใจเข้ากับการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าช่วยให้จิตใจของเราจดจ่อจนสงบลงได้
5.ออกไปใช้เวลาในธรรมชาติ
อีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกสดชื่นไปพร้อมกันก็คือ พาตัวเองออกไปอยู่กับธรรมชาติ อาจจะเป็น สวนสาธารณะ ทะเล เดินป่า หรือตั้งแคมป์ก็ได้เช่นกัน เพราะเวลาที่เราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ต้องมีเรื่องงานและเรื่องเรียนอยู่ตรงหน้า แต่ได้มองเห็นท้องฟ้า พระอาทิตย์และต้นไม้ ทำให้เราได้พักสายตามาโฟกัสเรื่องอื่นๆที่ไม่ต้องใช้ความคิดบ้าง นอกจากเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้ได้ Disconnect จากการเรียนชั่วคราวและพักจากความเครียดแล้ว งานวิจัยยังบอกอีกด้วยว่าระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายร อัตราการเต้นของหัวใจดีขึ้น รวมถึงอาการตึงแน่นของกล้ามเนื้อที่ลดลงด้วยเมื่ออยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
แต่หากบางคนไม่สามารถออกไปข้างนอกเพื่อชื่นชมธรรมชาติได้จริงๆ อาจลองวิธีเสมือนจริงก็ได้ผลเช่นกัน งานวิจัยบอกอีกด้วยว่าการฟังเสียงธรรมชาติ (Nature soundscapes) ไม่ว่าจะเป็นเสียงคลื่นทะเล น้ำตก หรือนกร้อง ก็ช่วยให้เราอยู่ในสภาวะสงบและช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ก็ช่วยให้มุมมองความคิดกว้างขึ้นแบบ Outward Focused อีกด้วย
6.ไปนวด
แค่ได้นอนเอนตัวในห้องที่บรรยากาศสบาย กลิ่นหอมของอโรมาเบาๆ และเพลงบรรเลงเพื่อความผ่อนคลาย เชื่อแน่ๆว่าแม้ว่าหมอนวดจะยังไม่เริ่มนวด ความเครียดต่างๆของเราก็ดูจะลดลงไปเยอะ และแน่นอนว่าเราจะรู้สึกดีขึ้นอีกเมื่อได้ผ่อนคลายร่างกายด้วยการนวด หรือกดจุดที่รู้สึกเมื่อย กิจกรรมนี้เป็นการผ่อนคลายร่างกายที่ได้ผลและช่วยให้กลับมามีพลังในการเรียนต่อได้มากทีเดียว
การนวดยังเป็นเหมือนการให้ของขวัญตัวเองอีกด้วยเพราะนอกจากเป็นกิจกรรมผ่อนคลายร่างกายขั้นสุดแล้ว การนวดก็ถือเป็นยาที่ช่วยให้เราสุขภาพดี ช่วยในเรื่องของความเครียดและอาการนอนไม่หลับ และมีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเกี่ยวกับเส้นประสาท (Neurohormones) ที่ช่วยในเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก อย่างฮอร์โมนโดพามีนที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว มีความสุขได้ง่ายขึ้นและมีกำลังใจในการทำเรื่องยากๆได้มากขึ้นอีกด้วย
7.ทำสิ่งที่ชอบ เช่น ดูหนังและทำสวน
และกิจกรรมสุดท้ายซึ่งเป็นการพักผ่อนแบบที่เราเลือกได้เอง นั่นคือการทำสิ่งที่เราอยากทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ออกไปดูหนัง ปาร์ตี้กับเพื่อน หรือไปชมงานศิลปะ อะไรก็ตามที่เราทำแล้วจะมีความสุขและพอใจ ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะหากเรียนอย่างเดียว ก็คงเครียด ลองหากิจกรรมที่สนุกทำ อย่างน้อยก็แบ่งเบาความเครียดจากการเรียนไปได้บ้าง และทำให้เราได้จดจ่อกับเรื่องอื่นๆ ที่อาจส่งเสริมให้กลับมาเรียนต่อได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง
นอกจากนี้ การให้รางวัลตัวเองได้ทำสิ่งที่อยากทำอย่างเต็มที่ก็ช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเองและคนรอบข้าง ความเครียดที่ลดลงและความสุขที่มากขึ้น สองสิ่งนี้ส่งผลต่อการเรียนต่อในระยะยาว และก็เป็นเหตุผลสำคัญที่เราควรหาเวลามาพักผ่อนกันบ้างนั่นเอง
อ้างอิง :