เวลาที่เราเห็นคนเก่งหรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เราอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า พวกเขาทำได้อย่างไร และอะไรคือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จนั้น? ซึ่งจริงๆ แล้วหนทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่มีทางลัด แต่เกิดจากการเรียนรู้และทดลองทำไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นนิสัย คำถามที่ถูกต้องจึงควรเป็น พวกเขามี “วิธีคิดและนิสัย” อย่างไรต่างหาก
จากหนังสือ The 7 Habits Of Highly Effective People โดย Stephen Covey เขาพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ในอดีตมักมีพื้นฐานทางจริยธรรมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความถ่อมตัว, ซื่อสัตย์, กล้าหาญ, และยุติธรรม แต่ปัจจุบัน เมื่อมีปัจจัยด้านอื่นมากขึ้น ลักษณะของคนที่ประสบความสำเร็จจึงเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ Covey เรียกว่า “Personality Ethic” หรือบุคลิกที่มีจริยธรรม นั่นเพราะว่า
“ความสำเร็จ” ประกอบไปด้วยปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น บุคลิกภาพ, ภาพลักษณ์, พฤติกรรม, และทักษะความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ
มีนิสัย 7 อย่างที่ Stephen Covey พบว่าเป็นจุดแข็งของคนเก่ง และหากเราได้ลองฝึกพัฒนานิสัยเหล่านี้ ก็ย่อมส่งผลต่อโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่างแน่นอน ลองมาดูไปพร้อมกัน!
7 นิสัยของคนมีประสิทธิผลสูง จากหนังสือดัง The 7 Habits of Highly Effective People
1.Proactive
ข้อแตกต่างระหว่างคนที่ทำงานเชิงรุก (Proactive person) กับคนที่ทำงานเชิงรับ (Reactive Person) คือ คนที่ทำงานเชิงรุกให้ความสำคัญกับคุณค่าในขณะที่คนที่ทำงานเชิงรับขับเคลื่อนทุกๆ อย่างด้วยอารมณ์และความรู้สึก คนทำงานเชิงรุกโฟกัสในสิ่งที่พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ แต่คนทำงานเชิงรับมักจะโทษสถานการณ์หากพวกเขาไม่สามารถควบคุมในสิ่งเหล่านั้น
Covey แนะนำว่าเพื่อให้เราสามารถทำงานเชิงรุกได้ดีขึ้น ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ดูก่อนแล้วโฟกัสที่เป้าหมายนั้นให้ได้อย่างน้อย 30 วันจนสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ แล้วสังเกตดูว่าหลังจากคุณฝึกนิสัยนี้ไปได้สักพัก มันได้เปลี่ยนแปลงวิธีคิดและแก้ปัญหาของคุณอย่างไรบ้าง
2.Begin With the End in Mind
ใช้ชีวิตตามคุณค่าที่ยึดถือ โดยลองคิดว่าเมื่อคุณตาย คุณอยากให้คนอื่นจดจำตัวเองอย่างไร
และไม่ว่าจะเริ่มต้นทำอะไร ให้ลองทำสองครั้ง ครั้งแรกทำในใจ และครั้งที่สองให้ลงมือทำจริง โดยครั้งแรกให้คุณมีภาพในใจก่อนลงมือทำเสมอ ยิ่งภาพนั้นชัดเจนมากเท่าไหร่ ตอนที่ลงมือทำมันก็ง่ายขึ้นมากเท่านั้น
โดย Covey แนะนำว่าก่อนจะมีภาพในใจ ให้โฟกัสที่สิ่งสำคัญสามอย่างก่อนคือ :
- สิ่งที่คุณต้องการจะเป็น (นิสัยและบุคลิก)
- สิ่งที่คุณต้องการจะทำ (ผลงานและความสำเร็จ)
- คุณค่าที่เกิดจากการทำทั้งสองสิ่งข้างต้น
เมื่อคุณฝึกนิสัยนี้ไปได้เรื่อยๆ มันจะกลายเป็นแนวทางการใช้ชีวิตและวิธีคิดของคุณ และจะกลายเป็นพื้นฐานการตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตด้วยเช่นกัน
3.Put First Things First
ทำเรื่องที่สำคัญก่อนเสมอ เพราะเรื่องไม่สำคัญนั้นสามารถรอได้ หรือกระจายให้คนอื่นทำแทน เราจะได้ทำงานที่ให้ผลลัพธ์จริงและมีประสิทธิภาพ
โดย Covey แนะนำให้คุณตอบคำถามสองข้อนี้กับตัวเองก่อน
- อะไรคือสิ่งที่คุณควรจะทำ แต่ไม่ได้ทำอยู่เป็นประจำ แต่หากคุณทำได้ มันจะช่วยพัฒนานิสัยและยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น
- และจากคำถามแรก อะไรคือสิ่งสำคัญนั้นเพียงหนึ่งสิ่งที่คุณเลือกจะทำ
การฝึกนิสัยนี้จะช่วยให้คุณได้มีเวลามากขึ้นมาโฟกัสกับเรื่องที่สำคัญจริงๆ และปฏิเสธเรื่องที่ไม่สำคัญที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อทำมัน
4.Think Win/Win
Covey ให้เหตุผลว่าการคิดแบบ Win-Win นั้นไม่ใช่แค่เทคนิคการเจรจาต่อรอง แต่มันคือหัวใจสำคัญของการสื่อสารเลยทีเดียว เพราะมันคือหลักคิดที่เอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย และไม่ว่าจะเป็นแนวทางการสื่อสาร การปรึกษาหารือ หรือแนวทางการทำงานก็ควรจะตั้งอยู่บน Mindset แบบ Win-Win นี้ เพราะสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยการร่วมมือกันย่อมดีกว่าการแข่งขันฟาดฟันกัน แม้คู่แข่งของเราจะได้ประโยชน์ด้วย แต่อย่างน้อยความพึงพอใจที่เกิดขึ้นร่วมกันก็ย่อมมดีกว่าเป็นไหนๆ
และเพื่อให้การคิดแบบ Win-Win ได้ผลลัพธ์ที่ดี Covey แนะนำให้อ้างอิงตาม 5 มิตินี้
- บุคลิกภาพ : ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้สถานการณ์แบบ Win-Win ได้ผล นั่นก็คือการปฎิบัติตัวแบบเป็นผู้ใหญ่ เชื่อถือได้และใจกว้าง เพราะการได้ประโยชน์ร่วมกันควรทำให้ความพอใจเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายโดยไม่จำเป็นต้องข่มขู่หรือใช้อำนาจ
- ความสัมพันธ์ : สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะแบบ Win-Win ได้ก็คือ “ความเชื่อใจ” หากคุณสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามเชื่อใจคุณได้ ไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็ไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เพลี่ยงพล้ำ
- ข้อตกลง : ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันและสามารถยอมรับในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้จากข้อมูล, แนวทาง, ข้อปฏิบัติและอื่นๆ
- ผลลัพธ์แบบ Win-Win : สร้างมาตรฐานในการวัดผลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงวางระบบความคิดให้อยู่บนพื้นฐานแบบ Win-Win
- กระบวนการอื่นๆ : ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการทำงานลักษณะใดก็ตาม อนุญาตให้ทุกฝ่ายสามารถหาผลลัพธ์ที่ Win-Win ได้
5.Seek First to Understand, Then to Be Understood
หากคุณอยากพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนอื่นให้ดีขึ้น Covey แนะนำว่าก่อนที่คุณจะเข้าใจคนอื่น คุณต้องเข้าใจสถานการณ์และบริบทของเขาด้วย หมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้องฟังคู่สนทนาของคุณไปเพื่อตอบคำถามของเขาได้ แต่ให้ตั้งใจฟังเพื่อเข้าใจเขาให้มากขึ้นแทน ซึ่งก็คือทักษะการฟังแบบมีอารมณ์ร่วม (Empathic Listening) นอกจากได้เข้าใจผู้อื่นมากขึ้นแล้ว สกิลการฟังที่ดีก็ช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจ เคารพและให้เกียรติคุณมากขึ้นด้วย
เพราะการฟังที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้การสื่อสารนั้นดีขึ้น และหากคุณพัฒนาทักษะการฟังได้ดีขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ย่อมทำให้คนอื่นอยากฟังคุณโดยที่พวกเขาไม่ได้รู้สึกถูกบังคับมากขึ้นเท่านั้น
6.Synergize
เพราะเราอยู่ท่ามกลางผู้คนที่คิดไม่เหมือนกัน จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปด้วย และบ่อยครั้งที่การบรรลุเป้าหมายก็ต้องพึ่งพาคนอื่น คนที่ประสบความสําเร็จจึงเป็นคนที่นําจุดแข็งของแต่ละคนมาผสานกันได้ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีพื้นฐานวิธีคิดที่แตกต่างกันมากก็ตาม
Covey ให้เหตุผลว่าการทำงานร่วมกับคนอื่นนั้นควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เพราะหัวใจหลักของการทำงานร่วมกันคือความสร้างสรรค์ ความเปิดกว้าง และการสื่อสาร สิ่งนี้สร้างสมดุลให้จิตใจ อารมณ์และสังคมรอบตัว โดยเอาจุดแข็งที่แตกต่างมาเสริมสร้างให้ทีมเก่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องควบคุมแต่ยอมรับในความแตกต่าง แล้วร่วมมือกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม
7. Sharpen the Saw
หมั่นลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ ซึ่งเลื่อยในที่นี่ก็คือร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมรอบตัวเรา ซึ่งเป็นต้นทุนในชีวิตที่สำคัญมาก เปรียบเสมือนเลื่อยที่ต้องลับคมให้สามารถใช้งานได้อยู่เสมอ เพราะหากไม่ได้ใส่ใจดูแลในต้นทุนเหล่านี้ เลื่อยนั้นก็จะทื่อและใช้งานไม่ได้ในที่สุด
Covey แนะนำว่ามี 4 มิติที่คุณควรจะลับเลื่อยให้คมก็คือ
1.ร่างกาย : ด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมโภชนาการอาหารและการจัดการกับความเครียด
2.อารมณ์และสังคมรอบตัว : ทำในสิ่งที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและมีความหมายแก่คุณ
3.จิตวิญญาณภายใน : ตั้งสติและสมาธิ มองหาคุณค่าในสิ่งอื่นๆ และตัวคุณเอง
4.สภาพจิตใจ : วางแผนชีวิต ทำในสิ่งที่รู้สึกสบายใจ ค้นคว้าและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดของ 7 นิสัยของคนมีประสิทธิผลสูง จากหนังสือดัง The 7 Habits of Highly Effective People สำหรับใครที่อยากพัฒนาตัวเองให้เก่ง ก้าวให้ทันโลกการทำงานยุคใหม่ ลองดูรายละเอียดหลักสูตรของ TUXSA ปริญญาโทโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ SkillLane ได้ที่นี่