3 รูปแบบของการคิดมาก และวิธีการเอาชนะ ‘ความเครียด’

ในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่ท้าทายความคิดของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเกี่ยวกับการทำงาน การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือแม้แต่ความเครียดที่เราอาจได้รับจากเพื่อนร่วมงาน ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยู่ในสภาวะ “คิดมาก” ได้

จากผลการศึกษา พบว่า เกือบสามในสี่ของวัยผู้ใหญ่มักจะเผชิญกับปัญหาการคิดมาก ซึ่งส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิต ประสิทธิภาพการทำงาน และความสัมพันธ์ บทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 3 ประเภทของการคิดมาก และวิธีเอาชนะกับความเครียด เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่สมดุลและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

1. ติดอยู่ในวังวนแห่งอดีต

การครุ่นคิด เปรียบเสมือนวังวนทางจิตที่กักขังเราไว้กับเหตุการณ์ในอดีต โดยเฉพาะเหตุการณ์เชิงลบหรือเหตุการณ์ที่สร้างความกังวล คนที่ครุ่นคิดมักจมอยู่กับความเสียใจ ความรู้สึกผิด และมักจะวนเวียนกับคำถาม “ถ้า…” พวกเขาพยายามทบทวนสิ่งที่ผิดพลาดและชอบโทษตัวเอง ลักษณะสำคัญของการครุ่นคิดคือ การจดจ่ออยู่กับอดีตและไม่สามารถก้าวต่อไปได้

สัญญาณเตือน:

  • ยึดติดกับผลตอบรับเชิงลบ
  • พูดถึงความล้มเหลว ความพ่ายแพ้ หรือความผิดพลาดในอดีตบ่อย ๆ
  • ระมัดระวังมากเกินไป ตรวจสอบงานซ้ำหลายรอบเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด

วิธีแก้ไข :

  • กำหนดเวลาสำหรับ “เวลากังวล”
    • แทนที่จะปล่อยให้ตัวเราติดอยู่ในอาการครุ่นคิดทั้งวัน ให้จำกัดเวลาไว้สำหรับการคิดกังวล โดยปกติไม่เกิน 15-30 นาที เลือกช่วงเวลาที่เหมาะกับคุณ (ไม่ควรคิดมากช่วงก่อนนอน) และสถานที่เฉพาะสำหรับช่วงเวลานี้ อาจจะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ภายในห้อง หรือสวนสาธารณะ
  • แบ่งความกังวลเป็นสองประเภท
    • สิ่งที่คุณควบคุมได้ : ระดมความคิดหาแนวทางแก้ไขหรือการกระทำที่เป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น หากกังวลเรื่องการทำตามกำหนดเวลา ให้วางแผนจัดการเวลา หรือแบ่งงานใหญ่ ๆ ออกเป็นงานย่อย ๆ เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด
    • สิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ : ฝึกการปล่อยวาง ต้องยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างตัวเราก็ไม่สามารถควบคุมได้ ฝึกสติให้อยู่กับปัจจุบัน
  • เลื่อนเวลา
    • เมื่อความคิดครุ่นคิดเกิดขึ้นนอกช่วงเวลากังวล ให้เตือนตัวเองเบา ๆ ว่า “ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ทีหลัง” วิธีนี้ช่วยเพิ่มการตระหนักรู้และควบคุมรูปแบบความคิดของคุณ

การแบ่งเวลาเพื่อจัดการกับความคิด ช่วยให้คุณไม่ต้องต่อสู้เพื่อผลักไสความคิดเหล่านั้นออกไป เพียงแค่เลื่อนเวลาไปจัดการในภายหลัง การครุ่นคิด เป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่สามารถเอาชนะได้ด้วยการฝึกฝนและเทคนิคที่เหมาะสม ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าคุณจะสามารถเอาชนะการครุ่นคิดและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น

2. กังวลเกี่ยวกับอนาคต

แทนที่จะจมอยู่กับอดีต หลายคนกลับกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แม้ว่าความคาดหวังจะเป็นสิ่งที่ดี แต่การกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับอนาคตก็อาจส่งผลเสียต่อเราได้ ความไม่แน่นอน โอกาสที่จะล้มเหลว และความกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้จัก ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาการคิดมาก

สัญญาณเตือน :

  • วางแผนเผชิญทุกสถานการณ์ที่เป็นไปได้
  • รู้สึกว่าการเฉลิมฉลองความสำเร็จเป็นเรื่องยาก เพราะกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
  • รู้สึกกระสับกระส่าย รู้สึกกังวลกับสิ่งที่ต้องทำ

วิธีแก้ไข :

  • ใช้จินตนาการมองอนาคต
    • นึกภาพตัวเองในอนาคต สะท้อนถึงเส้นทางอาชีพ มองสถานการณ์ปัจจุบันในมุมมองที่กว้างขึ้น
  • หยุดพักชั่วคราว
    • หยุดพักจากความกังวล มุ่งความสนใจไปที่สถานการณ์ปัจจุบัน และต้องฝึกให้ตัวเรามีสติอยู่เสมอ
  • จัดลำดับความสำคัญของข้อมูล
    • มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลที่ส่งผลต่อการทำงานและการตัดสินใจ

ตัวอย่าง :

คุณภัทร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กังวลกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เขาวางแผนเผชิญทุกสถานการณ์ กังวลกับกลยุทธ์ ปริมาณงาน และปฏิกิริยาของลูกค้า เขาจึงหาห้องเงียบ ๆ และนั่งนึกภาพตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า เขาเห็นตัวเองในตำแหน่งที่อาวุโส เมื่อมองย้อนกลับมา การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เป็นเพียงหนึ่งในหลายโครงการที่เขาทำ เขาจึงตระหนักได้ว่าบางสิ่งอาจไม่เป็นไปตามแผน แต่ทีมของเขาจะเรียนรู้และเติบโตจากประสบการณ์

3. วิเคราะห์มากจนเกินไป

การวิเคราะห์ เป็นกระบวนการสำคัญในการตัดสินใจ ช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ ประเมินตัวเลือก และเลือกแนวทางที่ดีที่สุด แต่ในบางครั้งการวิเคราะห์มากเกินไปก็อาจกลายเป็นกับดักที่ฉุดรั้งความสำเร็จของเราไว้

สัญญาณเตือน :

  • ผัดวันประกันพรุ่ง
    • คุณใช้เวลานานมากในการวิเคราะห์ข้อมูล ค้นคว้าข้อมูล จนไม่มีเวลาลงมือทำ
  • ขาดความมั่นใจ
    • คุณไม่มีความมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง และต้องการการยืนยันจากผู้อื่นอยู่เสมอ
  • ตัดสินใจยาก
    • คุณแยกแยะความสำคัญของงานไม่ได้ มัวแต่ติดอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อย กลัวการตัดสินใจผิดพลาด

วิธีแก้ไข :

  • มุ่งเป้าไปที่ “ดีพอ” แทนที่จะ “สมบูรณ์แบบ”
    • ยอมรับว่าไม่มีตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ เลือกตัวเลือกที่ “ดีเพียงพอ”
  • กำหนดเกณฑ์การตัดสินใจ
    • ตั้งเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ
  • จำกัดระยะเวลา
    • กำหนดเวลาการวิเคราะห์ให้ชัดเจน
  • ลงมือทำ
    • เมื่อถึงเวลาตัดสินใจ ให้ลงมือทำทันที
  • เรียนรู้จากประสบการณ์
    • วิเคราะห์ผลลัพธ์ และเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เราเจอ

ตัวอย่าง :

สมมติว่าคุณกำลังตัดสินใจ จะเปิดร้านอาหาร คุณอาจวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตลาด คู่แข่งขัน ต้นทุน สถานที่ ฯลฯ แต่หากวิเคราะห์มากเกินไป คุณอาจจมอยู่กับรายละเอียด กลัวการตัดสินใจผิดพลาด ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ วิธีแก้ไข คือ ให้คุณตั้งเกณฑ์การตัดสินใจ เช่น เงินลงทุน ตำแหน่งที่ตั้ง ระยะเวลาคืนทุน เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลครบ ให้ตัดสินใจโดยยึดหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ลงมือทำทันที และให้เรียนรู้จากประสบการณ์

สรุป

การคิดวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญ แต่การคิดฟุ้งซ่านมากเกินไป กลับกลายเป็นความคิดทางลบที่ไม่ก่อประโยชน์ ทักษะการขจัดความเครียดจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ช่วยให้คุณรับมือกับภาวะความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เราพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์

อ้างอิง: forbes.com

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save