วันหยุดกำลังจะผ่านไป คุณคิดว่าตัวเองได้ชาร์ตแบตเต็มที่ไหม? หรือรู้สึกเนือยๆ ไม่ค่อยเชื่อมโยงกับอะไรรอบตัว?
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่รู้สึกว่าพลังชีวิตไม่ค่อยเต็มหลอด วันนี้เรามีเทคนิคทำให้ชีวิต fully charged ที่หมายถึงทั้งมีพลังและเปี่ยมความหมายมาฝากกัน วิธีที่ว่านี้มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
เพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน
- เปลี่ยนงานเป็นเป้าหมายชีวิต
ถ้าคุณเปลี่ยนมุมมองต่องาน รับรองว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปด้วย เป็นเรื่องสำคัญที่จะคิดถึงงานในมุมที่ไม่ใช่แค่ออฟฟิศ แต่คิดถึงมันในฐานะเป้าหมายชีวิตของคุณด้วย
- เน้นที่แรงจูงใจจากภายใน
หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อคุณจะเปลี่ยนวิธีคิดคือการโฟกัสที่แรงจูงใจจากภายใน ไม่ใช่แรงจูงใจภายนอกเช่นเงิน ลองหากิจกรรมนอกเหนือจากงานที่ดึงดูดแรงจูงใจภายในของคุณเพื่อให้คุณกลับมามีพลังงานในการทำงาน
- งานยุ่งไม่เท่ากับทำงานอย่างมีความหมาย
จำไว้ว่าการมีงานยุ่งตลอดเวลาไม่เท่ากับการพัฒนาที่มีความหมาย คุณต้องทำงานให้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่หนักขึ้น
สร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
- คุยกับคนใหม่ๆ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นไปได้ ลองไปทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ ดู
- ให้เวลากับความสัมพันธ์ที่มีอยู่
แต่ขณะเดียวกัน อย่าลืมให้เวลาและความพยายามกับความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่ด้วย
Active ทั้งในชีวิตและการทำงาน
- ออกกำลังกาย
คุณไม่สามารถช่วยใครได้เต็มที่ถ้าคุณไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อน ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อรักษาสุขภาพก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง
- ให้ความสำคัญกับประสบการณ์
เมื่อคิดจะใช้เงิน คุณควรให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณสุขใจได้มากกว่าการช้อปปิ้ง
ไม่ลืมดูแลตัวเอง
- นอนให้พอ
การนอนมักเป็นเรื่องที่คนมองข้ามไปบ่อยๆ เพราะฉะนั้น อย่าลืมนอนให้พอเพื่อให้ชีวิตมีแบตเต็มหลอดได้จริงๆ
- หยุดเครียด
ลองฝึกสมาธิเพื่อลดความเครียดที่ไม่ได้มีแค่ผลดี แต่ส่งผลเสียกับร่างกายเช่นกัน
- ตอบแทนสังคม
หนึ่งในวิธีการสำคัญเพื่อให้ชีวิตมีแบตเต็มหลอดคือ การไม่ได้สนใจแค่ตัวเอง ทุกครั้งที่เป็นไปได้ ให้คุณตอบแทนสังคม โดยทำได้หลายวิธีตั้งแต่การบริจาคเงินจนถึงการไปเป็นอาสาสมัคร
ทั้งหมดนี้คือวิธีเพื่อช่วยให้ชีวิตของคุณมีแบตเต็มเปี่ยมอีกครั้ง และถ้าอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นอีกขั้น ลองมาพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวให้ทันอนาคตกับ TUXSA ปริญญาโทออนไลน์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ SkillLane ได้ที่นี่