หลายวันก่อน นักธุรกิจดังอย่าง Elon Musk ได้สร้างความฮือฮาในสังคมอีกครั้ง เมื่อเขาเข้าซื้อกิจการของ Twitter พร้อมประกาศว่าจะทำให้เจ้านกสีฟ้าตัวนี้เป็นพื้นที่ของ Free Speech
ที่ผ่านมา Elon Musk ได้ลงมือทำสิ่งใหม่ที่หลายคนคาดไม่ถึงมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าก่อนจะทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง ย่อมต้องอาศัยวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง
ล่าสุด ก่อนเข้าซื้อ Twitter ไม่นาน Elon Musk ได้ให้สัมภาษณ์กับ TED ถึงมุมมองของเขาต่อเทคโนโลยีและวันข้างหน้าของมนุษย์
เราเรียนรู้อะไรจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ Tech Visionary คนนี้ได้บ้าง? ลองมาเปิดหูเปิดตาไปด้วยกัน
01 โลกควรมีแพลตฟอร์มสาธารณะที่เชื่อถือได้และเปิดกว้าง
อีลอน มัสก์บอกในการสัมภาษณ์ว่า ทวิตเตอร์ควรมี algorithm ที่เป็น open source และเป็นพื้นที่ซึ่งผู้คนแสดงความเห็นได้อย่างเสรี มากเท่าที่ขอบเขตกฏหมายจะอนุญาต
“สัญญานที่ดีซึ่งชี้ว่าพื้นที่นี้มีเสรีภาพในการพูด คือการที่คนซึ่งคุณไม่ชอบได้รับอนุญาตให้พูดในสิ่งที่คุณไม่ชอบได้” เจ้าของ Twitter คนปัจจุบันอธิบาย
อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ไม่ได้มองว่าการซื้อทวิตเตอร์คือการหารายได้ แต่เป็นการทำตามสัญชาตญานของตัวเองที่บอกว่า การมีแพลตฟอร์มสาธารณะซึ่งเป็นที่ไว้วางใจและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนั้นสำคัญต่ออนาคตของอารยธรรมมนุษย์
02 อนาคตเรื่อง Climate Change กำลังไปในทางที่ดี
เมื่อพูดถึงปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาส อีลอน มัสก์ค่อนข้างมองอนาคตในแง่บวก เขาบอกว่าเรากำลังแก้ปัญหาได้ถูกทาง
แต่ทั้งนี้ นี่ไม่ได้หมายความว่าเราหยุดทุ่มเทแก้ปัญหาได้ แต่อีลอน มัสก์มองว่า ถ้าเราลงมือแก้ปัญหาต่อไป ความพยายามของเราจะได้ผล ตัวอย่างเช่น การนำพลังงานหมุนเวียน (โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม) มาใช้กับการคมนาคมจะช่วยแก้ปัญหา Climate Change ได้อย่างมาก
03 AI = ดาบ 2 คม
อีลอน มัสก์มองว่า AI หรือ Artificial Intelligence จะยังคงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ต่อไป เขาเผยว่า Tesla ตั้งใจว่าจะใช้ AI มาช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคันภายในปีหน้า และภายใน 2 ปีต่อจากนี้ เขาจะสร้างหุ่นยนต์ humanoid ที่สามารถนำมาใช้ในบ้านและนำมาช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ในราคาขายที่เทียบเท่ารถยนต์ 1 คัน
อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสต์ยังคงมองว่า AI อาจไม่ปลอดภัยต่อมนุษย์ในอนาคต และเรียกร้องให้รัฐบาลจับตามอง AI มากกว่านี้
04 ปี 2029 เราอาจได้ร่อนลงบนดาวอังคาร
อนาคตบนดาวดวงอื่นอาจเลิกเป็นแค่หนังไซไฟในอีกไม่นาน เพราะเจ้าของ SpaceX ได้กล่าวไว้ว่า ในปี 2029 เขาคาดว่ามนุษย์คนแรกจะได้ไปถึงดาวอังคาร
นอกจากนั้น เขายังมองอนาคตไว้ว่า น่าจะต้องใช้มนุษย์ประมาณ 1 ล้านคนเพื่อทำให้มนุษย์อยู่บนนั้นแบบ self-sustaining ได้ ซึ่งการไปสู่จุดนั้นอาจใช้เวลาราว 20 ปี และการผลิตเชื้อเพลิงบนดาวอังคารได้จะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะดาวอังคารคือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจและแผ่ขยายอาณาเขตสู่ส่วนที่เหลือของระบบสุริยะ
05 อนาคตรอเด็กๆ อยู่ในโลกดิจิทัล
เมื่อพิธีกรถามอีลอน มัสก์ว่า ลูกชายของเขาจะเติบโตขึ้นในโลกอนาคตที่มีหน้าตาแบบไหน คำตอบของเขาคือ a very digital future ซึ่งต่างจากโลกที่เขาโตมา และเขามองว่า เราต่างพยายามทำดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นอนาคตที่ดีสำหรับลูกหลานของทุกคน และจะเป็นสิ่งที่เรารอคอย ไม่ใช่สิ่งที่เศร้าเมื่อคิดถึง
“ผมคิดว่าเราควรมองอนาคตในแง่ดี และสู้เพื่อให้อนาคตที่ดีเกิดขึ้น” อีลอน มัสก์กล่าวไว้
อ้างอิง:
https://www.thestreet.com/markets/elon-musk-ted-talk
https://www.cbc.ca/news/canada/british-columbia/ted-2022-highlights-elon-musk-1.6420119
