มอบหมายงานอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ? ภารกิจสุดท้าทายของคนเป็นหัวหน้า

“ถ้าต้องการทำงานเล็กๆ ไม่กี่อย่างให้ถูกต้อง จงทำงานนั้นด้วยตนเอง ถ้าต้องการทำสิ่งยิ่งใหญ่และสร้างแรงกระเพื่อมสำคัญ จงเรียนรู้ที่จะแบ่งงาน” 

— หนังสือ Developing the Leaders Around You เขียนโดย John C. Maxwell 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในเรื่องท้าทายที่สุดของการเป็นหัวหน้าหรือผู้นำองค์กร คือการมอบหมายงานให้ลูกน้องรับผิดชอบแทน (Delegation) ในฐานะหัวหน้าซึ่งมีภาระงานมากมายต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องปกติที่ผู้นำองค์กรต้องบริหารการทำงานให้สำเร็จลุล่วงด้วยการแบ่งงานส่วนหนึ่งให้สมาชิกในทีม แต่ปัญหาคลาสสิกที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็คือ แม้ว่าผู้นำจะรู้ว่าการแบ่งงานเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่พวกเขากลับทำไม่ได้ หรือเลือกที่จะไม่ทำ 

Eli Broad นักเขียนและซีอีโอมหาเศรษฐี กล่าวไว้ในหนังสือ The Art of Being Unreasonable ของเขาว่า “การขาดความสามารถในการมอบหมายงาน เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดที่ผมพบเห็นในผู้จัดการทุกระดับ” เพราะหากผู้นำระดับสูงขององค์กรแบ่งงานไม่เป็น หรือเลือกที่จะไม่แบ่งงาน วัฒนธรรมขององค์กรย่อมจะได้รับผลกระทบ 

เช่นเดียวกับงานศึกษาของ Gallup ในปี 2015 ที่สำรวจทักษะผู้ประกอบการของซีอีโอจำนวน 143 คนของบริษัทเอกชนที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด 500 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา (Inc. 500) และพบว่าบริษัทที่ผู้บริหารมอบอำนาจความรับผิดชอบให้ลูกน้องอย่างมีประสิทธิภาพ จะเติบโตเร็วกว่า สร้างรายได้มากกว่า และสร้างงานได้มากกว่า

ทำไมการแบ่งงานจึงเป็นเรื่องยาก

เหตุผลที่คนเป็นหัวหน้าไม่สามารถแบ่งงานให้คนอื่นดูแลแทนได้ ส่วนหนึ่งมีที่มาจากการที่พวกเขาไม่มีแบบอย่างในองค์กรที่แสดงให้เห็นวิธีการมอบหมายงานให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ หลายคนยังมีความกังวลว่าการมอบหมายงานจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง เพราะอาจทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความสามารถที่จะเข้าใจงานของตนเอง หรือดูเหมือนกำลังอู้งานอยู่

ผู้นำจำนวนมากไม่แน่ใจว่าพวกเขาสามารถมอบหมายงานอะไรให้คนอื่นได้บ้าง ที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองจริงๆ และนอกจาก “งาน” แล้ว การมอบหมาย “ความรับผิดชอบ” ที่จำเป็นสำหรับการทำงานนั้นๆ เพื่อให้ผู้ที่รับช่วงต่อสามารถทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ก็สำคัญไม่แพ้กัน 

การมอบหมายงานจึงมีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่ต้องคำนึงถึง คือจะมอบหมาย “งานอะไร” (What) และมอบหมาย “อย่างไร” (How)

งานแบบไหนที่ควรมอบหมายให้ลูกน้อง

ผู้นำสามารถพิจารณาว่าควรมอบหมายงานไหนให้ลูกน้องทำแทนบ้าง ด้วยเกณฑ์ 6T ดังนี้

  • Tiny งานเล็กๆ น้อยๆ

งานที่เล็กมาก ไม่สำคัญ และไม่เร่งด่วน แต่เมื่อนำมารวมกันแล้วมันทำให้คุณใช้เวลามากขึ้น และแม้ว่างานเหล่านี้จะใช้เวลาจัดการเพียงไม่กี่นาที แต่คุณพบว่ามันทำให้คุณเสียสมาธิการจดจ่อในการทำงานที่เป็นงานด้านกลยุทธ์ซึ่งสำคัญกว่า

เช่น การลงทะเบียนสำหรับงานกิจกรรม การเพิ่มกิจกรรมในตารางงาน การจองโรงแรมหรือเที่ยวบิน 

  • Tedious งานง่ายๆ 

งานง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็จัดการได้ และควรให้คนอื่นจัดการ เพราะเป็นงานที่ไม่คุ้มกับเวลาที่คุณต้องเสียไป 

เช่น การป้อนข้อมูล 100 รายการลงในสเปรดชีต หรืออัปเดต KPI ในสไลด์

  • Time-Consuming งานที่ใช้เวลา 

งานที่แม้ว่าอาจจะสำคัญและซับซ้อนอยู่บ้าง แต่ก็ใช้เวลานานและไม่ได้มีความจำเป็นที่คุณจะต้องค้นหาข้อมูลด้วยตนเองตั้งแต่แรก คุณสามารถเข้ามาตรวจสอบเมื่องานสำเร็จไปแล้ว 80% แล้วเพียงแค่ทำหน้าที่อนุมัติ แนะนำ หรือปรับทิศทางในขั้นตอนต่อไปก็พอ

  • Teachable งานที่สอนคนอื่นทำได้

งานที่แม้จะดูซับซ้อนในช่วงแรกและอาจประกอบด้วยงานย่อยอีกหลายชิ้น แต่ก็สามารถแปลให้เป็นระบบและส่งต่อให้คนอื่นได้ โดยที่คุณยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพและอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย 

เช่น การสอนงานให้ลูกน้องของคุณเข้าใจวิธีร่างสไลด์สำหรับการประชุมประจำเดือน 

  • Terrible At งานที่ไม่ถนัด 

งานที่นอกจากจะไม่ใช่จุดแข็งของคุณแล้ว คุณยังรู้สึกว่าไม่มีความสามารถมากพอด้วย งานที่คุณใช้เวลาในการทำงานนี้นานกว่าคนที่มีทักษะในด้านนี้มาก และแม้ว่าจะทำสำเร็จแต่ก็ยังได้ผลลัพธ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน 

เช่น การออกแบบภาพสไลด์ PowerPoint สำหรับการประชุมทีม หรือการจ้างนักออกแบบมืออาชีพให้ทำพรีเซนเทชั่นเพื่อใช้ในการบรรยาย 

  • Time Sensitive งานที่แข่งกับเวลา

งานที่แข่งกับเวลา ในขณะที่คุณมีงานสำคัญอื่นๆ ที่ต้องรีบจัดการ หากคุณไม่มีเวลาพอที่จะทำงานทั้งหมด คุณควรมอบหมายงานที่สำคัญและต้องทำให้เสร็จโดยเร็วให้คนอื่น 

เช่น การโทรหาสายการบินเพื่อเปลี่ยนที่นั่งสำหรับเที่ยวบินในวันถัดไปในขณะที่คุณติดอยู่ในประชุมทั้งวัน

เคล็ดลับ:

ควรหมั่นตรวจสอบงานต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบเป็นประจำ (หากทำทุกวันได้ยิ่งดี) โดยถามตัวเองว่างานไหนบ้างที่มีแค่คุณเท่านั้นที่ทำได้ และคุณจะมอบหมายงานที่เหลือให้คนอื่นอย่างไรได้บ้าง

แบ่งงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อรู้แล้วว่างานไหนที่สามารถส่งต่อให้ลูกน้องช่วยทำแทนได้บ้าง สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “วิธีการ” Deborah Grayson Riegel วิทยากรด้านทักษะผู้นำ เจ้าของหนังสือขายดี Go To Help: 31 Strategies to Offer, Ask for, and Accept Help ระบุว่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการมอบหมายงานให้ผู้อื่น มีแนวทางทั้งหมด 8 ข้อ ดังนี้

  1. เลือกคนที่ใช่

“คนที่ใช่” ในที่นี้มีความหมายได้หลากหลาย คนที่ใช่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงคนที่มีความสามารถเสมอไป แต่อาจหมายถึงคนที่จำเป็นต้องพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานชิ้นนั้นๆ คนที่แสดงความสนใจจะรับผิดชอบงานนั้น คนที่พร้อมสำหรับความท้าทาย หรือคนที่จะเห็นว่าการมอบหมายงานนี้นัั้นถือเป็นการให้รางวัลก็ได้เช่นกัน 

และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการส่งต่องานจะอธิบายด้วยว่า เพราะเหตุใดจึงเลือกคนคนนั้นมารับหน้าที่นี้

  1. อธิบายผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างละเอียด

ทุกครั้งที่มอบหมายงาน หัวหน้าต้องสื่อสารความคาดหวังของตนเองเพื่อให้ลูกน้องเห็นภาพตรงกัน โดยระบุ

  • ผลลัพธ์ (ต้องการทำอะไร)
  • จุดประสงค์ (ทำเพื่ออะไร)
  • หลักเกณฑ์วัดผลสำเร็จ (ถ้าทำสำเร็จ ผลลัพธ์ควรจะออกมาหน้าตาอย่างไร)
  1. ระบุขอบเขตหน้าที่และอำนาจในการตัดสินใจให้ชัด

ในหนังสือ Drive: The Surprising Science About What Motivates Us ผู้เขียน Daniel Pink กล่าวว่า คนทำงานมักต้องการมีอิสระในการตัดสินใจด้วยตนเอง ทั้งในเรื่องเนื้องาน ทีมงาน เทคนิค และเวลา ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการมอบหมายงาน จะบอกขอบเขตที่ชัดเจนให้สมาชิกในทีมทราบว่าพวกเขาจะมีอำนาจในการตัดสินใจเองในเรื่องใดบ้าง และเรื่องใดที่พวกเขาจะยังไม่ได้รับสิทธิ์นั้น 

  1. ดูแลให้ได้รับทรัพยากรที่จำเป็นในการทำงาน 

ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม งบประมาณ อุปกรณ์ เวลา พื้นที่ส่วนตัว การปรับลำดับความสำคัญของงาน หรือความช่วยเหลือจากผู้อื่น

  1. กำหนดแผนและช่วงเวลาตรวจสอบงาน

แจกแจงรายการสิ่งที่ต้องตรวจสอบ ขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญ และกำหนดช่วงเวลาสำหรับให้ข้อเสนอแนะ ทั้งหมดนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้องรู้สึกว่าคุณจู้จี้ในรายละเอียดมากเกินไป (micromanage) แต่ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย (under-lead)

  1. สนับสนุนให้คิดนอกกรอบ 

เป็นเรื่องสำคัญที่หัวหน้าผู้มอบหมายงานจะต้องไม่ยึดติดกับวิธีทำงานแบบเดิมที่เคยทำในอดีต เพื่อเปิดโอกาส รับรู้ และให้รางวัลกับวิธีการทำงานใหม่ๆ ที่ได้ผล

  1. สร้างบรรยากาศที่ให้แรงบันดาลใจ

ผู้นำที่ประสบความสำเร็จจะรู้ว่าควรทำหน้าที่อะไรในแต่ช่วงเวลา เมื่อใดควรปลุกใจ ชี้แนะ กอบกู้สถานการณ์ ถอยห่างเพื่อตรึกตรอง ปรับความคาดหวัง ทำตัวเองให้ว่างสำหรับทีม และฉลองให้กับความสำเร็จ

  1. ยอมรับความเสี่ยงและข้อผิดพลาด 

ข้อผิดพลาดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะงานที่ลูกน้องไม่เคยทำมาก่อน ผู้นำที่มอบหมายงานจึงควรมองความผิดพลาดว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้ มากกว่าที่จะเป็นหลักฐานว่าไม่ควรมอบหมายงานตั้งแต่แรก

อ้างอิง:

https://hbr.org/2019/08/8-ways-leaders-delegate-successfully

https://hbr.org/2017/07/how-to-decide-which-tasks-to-delegate

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า