ฟังเก่ง เรียนเก่ง! 3 วิธีฟังเลคเชอร์ให้ได้ความรู้แบบจัดเต็ม

อยากเรียนให้รู้เรื่องและเข้าใจตั้งแต่ในห้องเรียน อาจไม่ใช่แค่การจดเลกเชอร์ทุกประโยคหรือท่องจำเนื้อหาให้ได้ทุกบทเรียน แต่เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้ามอย่าง “การฟัง” และมันก็มีข้อแตกต่างอยู่ระหว่างการฟังที่ได้ผลกับการฟังแบบทั่วไป 

หากคุณฟังอาจารย์สอนทุกประโยคแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะการฟังให้เก่งนั้นฝึกกันได้ 

เรารวบรวมทริกควรรู้ ฝึกตัวเองให้ฟังเก่ง เอาไว้ต่อยอดทั้งการเรียนและทำงานได้ในระยะยาว ด้วย 3 วิธีฟังเลคเชอร์ให้ได้ความรู้แบบจัดเต็ม มาดูไปพร้อมกันเลย! 

1.เตรียมพร้อมก่อนฟัง

ขั้นแรก ก่อนจะตั้งใจฟังเลคเชอร์ มั่นใจว่าเราเตรียมความพร้อมมาฟังอย่างเต็มที่ เคลียร์การบ้านหรืองานที่ได้รับมอบหมายให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้ไม่ต้องคอยวิตกกังวลถึงการบ้านที่ค้างอยู่ ซึ่งอาจทำให้เสียสมาธิและฟังอาจารย์ไม่รู้เรื่อง รวมถึงอ่านทบทวนบทเรียนเก่าๆ เพื่อให้รู้ว่าเข้าใจได้ดีเพียงใด และทำความเข้าใจประเด็นใหม่ๆไว้ล่วงหน้า จะได้นำมาต่อยอดกับบทเรียนใหม่ได้ดีขึ้นเมื่อฟังเลคเชอร์ นอกจากเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมใจให้พร้อม ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะฟังให้ดียิ่งขึ้น จะยิ่งช่วยให้คุณเข้าใจประเด็นต่างๆได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เวลาทวนความจำนานๆเลย 

2.ฟังอย่างมีเป้าหมาย

ระบุสิ่งที่ตัวเองคาดหวังจากการฟังเสมอ ว่าเราต้องการอะไรจากเลคเชอร์นี้บ้าง มีอะไรที่เราอยากรู้ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย การลิสต์คำถามเอาไว้ก็จะช่วยให้เราตั้งใจฟังในประเด็นนั้นๆ มากขึ้น เก็บข้อมูลและรายละเอียดที่ควรรู้ได้อย่างครบถ้วน เข้าใจประเด็นได้ลึกซึ้งขึ้น สิ่งสำคัญคือพยายามจดจ่อให้ได้มากที่สุด ซึ่งการมีเป้าหมายนั้นจะช่วยให้เราจดจ่อได้นาน แต่หากเราไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ว่าต้องการอะไรจากเลคเชอร์นี้ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะหลุดโฟกัสได้ง่าย เพราะฉะนั้นก่อนฟังเลคเชอร์ควรถามตัวเองทุกครั้งว่าเป้าหมายของการฟังครั้งนี้คืออะไร นอกจากทำให้เราได้เก็บประเด็นครบถ้วนแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปเราก็ยังจำได้ว่าเราฟังอะไรไปบ้างเพราะเป้าหมายที่ชัดเจนของเรานั่นเอง 

3.ใช้เทคนิค HEAR

เทคนิค HEAR จากบทความเพิ่มศักยภาพการฟังโดย Donna Wilson and Marcus Conyers แนะนำไว้ว่าเทคนิคนี้จะช่วยให้คุณโฟกัสดีขึ้น จับประเด็นเก่งขึ้นและฟังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการเป็นนักฟังที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่เป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนและทำอย่างต่อเนื่อง โดย 4 วิธีของเทคนิค HEAR นั้นได้แก่

  • Halt : หยุดทำและคิดเรื่องอื่นนอกจากการฟังเลคเชอร์

ขณะฟัง ควรหยุดนิสัยทำอย่างอื่นหรือคิดเรื่องอื่นๆ ไปด้วย เพราะจะทำให้เราโฟกัสได้ไม่เต็มที่ เข้าหูซ้ายอาจทะลุออกหูขวาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือหยุดทำทุกสิ่ง และพักจากการคิดทุกเรื่องไว้ก่อน ตั้งใจที่การฟังเลคเชอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากลองทำเช่นนี้ไปสักพัก คุณจะแปลกใจว่าสามารถจำอะไรได้มากมายอย่างต่อเนื่องและจำได้นาน เพราะเป็นการฟังอย่างตั้งใจโดยไม่มีเรื่องอื่นๆ มารบกวนสมาธิ

  • Engage : มีส่วนร่วมและโฟกัสที่อาจารย์สอน

เมื่อเราโฟกัสและมีส่วนร่วมกับที่อาจารย์สอนอย่างตั้งใจโดยไม่ทำอย่างอื่นไปด้วยแล้ว การมีส่วนร่วมทางกายภาพก็ช่วยให้ฟังเก่งขึ้น เช่น เอียงหูไปฟังอาจารย์ใกล้ๆ ขณะที่เรียนออนไลน์ ก็ทำให้สมองเข้าใจว่าเรากำลังจดจ่อกับการฟังอย่างตั้งใจ และมีแนวโน้มที่เราจะเข้าใจในเนื้อหานั้นๆได้ดีขึ้น

  • Anticipate : ฟังอย่างกระตือรือร้น

หากอยากฟังเก่ง ก็ต้องเป็นคนที่อยากฟังก่อน ซึ่งทำได้ด้วยการฟังอย่างกระตือรือร้น ตื่นตัวเวลาที่อาจารย์สอน เพื่อให้การฟังเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้รับความรู้จากเลคเชอร์ให้มากที่สุด เมื่อคุณฟังอย่างกระตือรือร้นและตั้งใจ คุณจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆที่น่าสนใจอีกเยอะเลยทีเดียว

  • Replay : ฟังแล้วคิดตาม นำมาทบทวนเพื่อให้เข้าใจดียิ่งขึ้น

เมื่อฟังจบ ก็อย่าลืมนำเนื้อหามาทบทวนแล้ววิเคราะห์ตามว่าอาจารย์ต้องการสื่อประเด็นอะไรบ้าง นำมาสรุปและแปลความให้เป็นภาษาของตัวเองที่เข้าใจได้ง่ายๆ หรืออีกวิธีที่ดีก็คือนำไปวิเคราะห์และพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้น แบ่งปันความคิดเห็นว่าเข้าใจเนื้อหาอย่างไรบ้าง เราจะได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมหรือเนื้อหาที่อาจตกหล่นไป และเป็นการทบทวนความจำความเข้าใจของเราไปในตัวด้วย 

และสุดท้าย อย่าลืมว่า practice makes perfect! การฝึกฝนจะทำให้คุณชำนาญ หากรู้สึกว่ายังฟังไม่ค่อยดี จำไม่ค่อยได้ ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะหากฝึกฟังบ่อยๆ และนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ทำให้มันกลายเป็นนิสัย เราเชื่อว่าคุณจะมีทักษะการฟังที่เก่งขึ้นได้อย่างแน่นอน 

อ้างอิง :

SHARE

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้เพื่อการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า