อยากพัฒนาตัวเอง แต่ไม่รู้ควรเริ่มตรงไหนดี!
วันนี้ TUXSA รวมลิสต์ areas of improvement มาให้หยิบไปเริ่มพัฒนาตัวเองกัน เราเริ่มพัฒนาจากตรงไหนได้บ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้เลย!
วิธีหาว่าเราควรพัฒนาตัวเองที่จุดไหน
-เขียนสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นความท้าทายในการทำงาน
-ลองมองหา feedback จากคนอื่น
รวมลิสต์ areas of improvement เพื่อเริ่มต้นพัฒนาตัวเองตั้งแต่วันนี้ !
1.ความมั่นใจ
การขาดความมั่นใจสามารถส่งผลกระทบต่อ performance ของเราและทำให้เราไม่ก้าวหน้าในการทำงานได้ การรู้ว่าเราต้องมั่นใจมากขึ้นจะช่วยให้เรามองหาโอกาสในการแชร์ความสามารถของเรากับคนอื่น
2.active listening
การรับฟังคนอื่นและมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เขาต้องพูดจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างองค์กรดีขึ้น โดย active listening นี้ไม่ใช่แค่การใส่ใจระหว่างคนอื่นพูด แต่หมายถึงการถามเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อสารด้วย
3.การสื่อสารผ่านการเขียน
การอธิบายสิ่งที่เราคิดให้ชัดเจนผ่านการเขียนเช่น การเขียนรายงาน และอีเมลคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การทำงานลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ เราสามารถฝึกเรื่องนี้ได้ด้วยการปรับแก้สิ่งที่เขียนและหา pattern ที่อยู่ในงานของเรา
4.การพูดในที่สาธารณะ
งานอย่างการนำเสนองานและพบปะลูกค้าต้องการทักษะการพูดในที่สาธารณะที่ดี ลองฝึกทักษะนี้ด้วยการเข้าเวิร์กชอปและแสดงความเห็น
5.การตั้งเป้าหมาย
การตั้งเป้าหมายจะเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณเติบโตขึ้นไปในหน้าที่การงาน ลองเริ่มจากการหา benchmark ที่คุณอยากไปถึงระหว่างทำโปรเจกต์ จากนั้นลองฉายภาพอนาคตระยะยาวเพื่อตั้งเป้าหมาย
6.การรับ feedback
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้สึกไม่สบายตัวเวลาได้รับคำวิจารณ์ แต่คนทำงานที่มีประสบการณ์จะรับ feedback และนำไปใช้พัฒนาตัวเองต่อไปได้
7.ประสบการณ์และความรู้
การไม่มีประสบการณ์เป็นความท้าทายของการทำงาน แต่ขณะเดียวกัน นี่คือหนึ่งใน areas of imporvement ที่เราพัฒนาได้ง่าย การเรียนคอร์สพัฒนาทักษะ รับประกาศนียบัตร และเข้าไปช่วยในโปรเจกต์ใหม่ๆ สามารถช่วยให้เราพัฒนาพื้นฐานความรู้ของตัวเองได้
8.ความน่าเชื่อถือ
การสร้างความเชื่อถือในที่ทำงานนั้นต้องใช้เวลา แต่ยิ่งเราสามารถแสดงความซื่อสัตย์มากเท่าไหร่ คนยิ่งมีแนวโน้มจะไว้ใจให้คุณทำงานและทำตาสัญญามากเท่านั้น
9.ความเป็นผู้นำ
การเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งต้องฝึกฝน และหลายคนก็รู้สึกสบายใจที่จะเป็นผู้ตามมากกว่าการเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทุกคนสามารถพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำได้ ด้วยการแสดงความคิดเห็นและใส่ใจวิธีที่ทีมทำงานร่วมกัน
10.การจัดการเวลา
การรู้ว่าต้องใช้เวลาทำงานนานแค่ไหนและการจัดการเวลาได้ดีเป็นสิ่งที่แต่ละออฟฟิศต้องการมาก เราสามารถพัฒนาทักษะการจัดการเวลาได้ด้วยการเขียนตารางในแต่ละวันที่มีชิ้นงานที่ต้องทำ แล้วนำมาเทียบกับระยเวลาจริงๆ ที่ต้องใช้ทำงานนั้นในแต่ละวัน
11.การกระจายงาน
การกระจายงานให้คนอื่นต้องใช้ทักษะการแก้ปัญหาและการคิดวิเคราะห์ เราต้องรู้ว่าใครที่ไว้ใจได้และใครคือคนที่เหมาะกับงานแต่ละงานมากที่สุด จากนั้นจึงดูให้แน่ใจว่างานทั้งหมดได้รับการกระจายอย่างครอบคลุม
12.การจัดการความเครียด
การทำงานได้ภายใต้ความกดดันเป็นสิ่งที่ฝึกกันได้ ลองสำรวจดูเทคนิคจัดการความเครียดต่างๆ ในที่ทำงานและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจำกัดปริมาณงานของตัวเอง
13.ใส่ใจรายละเอียด
ถ้าอยากเป็นคนละเอียดขึ้น ให้ฝึกมองหารูปแบบที่ซ่อนอยู่ในงานและเช็กงานที่ทำซ้ำอีกครั้งแม้บางงานจะเป็นงานพื้นฐานทั่วๆ ไปก็ตาม การใส่ใจรายละเอียดสามารถทำให้งานของเราต่างจากเดิมได้อย่างมาก
14.ความเป็นระเบียบ
การเป็นคนมีระเบียบนั้นต้องอาศัยการสร้างนิสัยใหม่ ซึ่งหมายถึงการฝึกฝนที่ต้องใช้เวลา ลองเขียนสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็น priority และฝึกเก็บเอกสารและเครื่องมือจำเป็นให้เป็นที่เป็นทาง
15.การทำงานเป็นทีม
ส่วนหนึ่งของการทำงานเป็นทีมต้องอาศัยการทำงานและการสื่อสารกับคนอื่นเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายร่วมกัน ลองฟังมุมมองของคนอื่นและประนีประนอมเพื่อช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
16.การเป็นคนเชื่อถือได้
เราสามารถเป็นคนน่าเชื่อถือด้วยการส่งงานคุณภาพตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ และทำให้ได้ตามความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับการเป็นคนพึ่งพาได้
17.ความเป็นมืออาชีพ
ความเป็นมืออาชีพเกี่ยวข้องกับการรู้ว่าควรทำตัวอย่างไรในสภาพแวดล้อมต่างๆ เราสามารถดูเป็นมืออาชีพขึ้นได้ด้วยการค้นคว้าข้อมูลเรื่องมาตรฐานต่างๆ ในวงการ หรือแค่สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวก็ได้
18.ความยืดหยุ่น
การเป็นคนยืดหยุ่นขึ้นจะช่วยให้เราปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงในด้านความเป็นผู้นำและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่คาดไม่ถึงได้ การเปิดรับความเปลี่ยนแปลงและความยืดหยุ่นช่วยให้เราพัฒนาการคิดแบบเชิงกลยุทธ์และช่วยให้ workflow การทำงานของเราดีขึ้นได้
19.ทัศนคติ
ทัศนคติของเราส่งผลต่อวัฒนธรรมองค์กร ขวัญกำลังใจ และ productivity ในการทำงาน เราพัฒนาทัศนคติได้ด้วยการโฟกัสในแง่บวก ผ่านการทบทวนความสำเร็จของตัวเองและทบทวนว่าเราเรียนรู้จากความล้มเหลวอย่างไรบ้าง
20.การรู้ทันตัวเอง
การรู้ว่าตัวเองทำให้คนอื่นรู้สึกอย่างไรและรู้ว่าตัวเองมีความสามารถอย่างไรคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนาและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในการทำงานได้
21.การตัดสินใจ
การสามารถตัดสินใจโดยไม่ต้องอาศัย input จากด้านนอกคือสิ่งสำคัญในการมีความรับผิดชอบที่มากขึ้นและจัดการตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ ลองฝึกการตัดสินนใจด้วยการเลือกสิ่งต่างๆ และทบทวนว่าการตัดสินใจเหล่านั้นส่งผลอย่างไรต่อความสำเร็จของคุณ
22.การดูแลลูกค้า
ฝึกเป็นคนให้ความสำคัญกับลูกค้าและเป็นเหมือนตัวแทนบริษัทในทุกครั้งที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น การให้บริการลูกค้ามีส่วนผสมหลักๆ คือการผสมผสานของความอดทน การแก้ปัญหา และการโน้มน้าวใจ
23.การแก้ไขความขัดแย้ง
การพิจารณาความขัดแย้งระหว่างคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การปฏิบัติงานราบรื่นและโปรเจกต์ต่างๆ ลุล่วงได้ เราสามารถพัฒนาทักษะแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการเป็นคนที่มีไหวพริบและชั้นเชิงมากขึ้นเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
และทั้งหมดนี้คือรวมลิสต์ areas of improvement เพื่อให้เราเริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ และสำหรับใครที่อยากพัฒนาตัวเองให้เก่ง ก้าวให้ทันโลกการทำงานยุคใหม่ ลองดูรายละเอียดหลักสูตรของ TUXSA ปริญญาโทโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ SkillLane ได้ที่นี่
อ้างอิง: glassdoor.com