ตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโควิด-19 ได้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งมาตรการ Social Distancing , การเข้ามาของยุค New Normal และเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการใช้บริการต่างๆ ผ่านวิธีออนไลน์ ซึ่งไม่ได้กระทบแค่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปในด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Disruption ของบางธุรกิจ การ Transformation ของบางอาชีพ และแน่นอนว่ามันย่อมส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย เช่น การซื้อของออนไลน์ หรือสั่งอาหารออนไลน์กันจนเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้ Social Commerce ในช่องทางต่างๆ เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
เพิ่มยอดขาย หาลูกค้าใหม่ในยุค New Normal
และเพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้นี่เอง ได้นำพาเราไปสู่ยุคใหม่ New Normal ซึ่งเป็นยุคที่โลกออนไลน์สร้างความสะดวกสบายให้กับเรา เกิดไลฟ์สไตล์ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ในอดีตเราอาจจะต้องออกไปพบปะและพูดคุยกับลูกค้าถึงที่เพื่อจะได้ปิดการขาย แต่ปัจจุบันคุณไม่จำเป็นต้องไปเจอลูกค้าถึงที่ ลูกค้าก็พร้อมจะซื้อกับคุณ หากคุณมีเทคนิคหรือวิธีในการขายทางไกลที่ดีมากพอ
แล้วมีวิธีการอย่างไรบ้างที่สามารถเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น และหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นให้ธุรกิจของคุณ?
เราขอแนะนำ 5 วิธีง่ายๆที่คุณสามารถทำได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปพบลูกค้าถึงที่!
1. เข้าใจธุรกิจของตัวเองดีแบบ Inside and Out
ในยุคสมัยนี้ เราเห็นใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่สามารถเพิ่มยอดขายและหาลูกค้าใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง จุดแตกต่างอยู่ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าธุรกิจของตัวเองมีไว้เพื่ออะไร (What) แต่ไม่เข้าใจว่าธุรกิจของตัวเองมีไปทำไม (Why) จึงไม่ได้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากนัก
การรู้เป้าหมายของธุรกิจของคุณ ว่าธุรกิจของเราคืออะไร มีไว้เพื่อแก้ปัญหาอะไร และเพื่อใคร นั่นหมายถึง คุณต้องมีความรู้ ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจคุณเป็นอย่างดี เพราะการเข้าใจธุรกิจของคุณดี มันจะทำให้คุณเข้าใจว่าปัญหาของลูกค้าคืออะไร และคุณจะเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างไร
เพราะฉะนั้นการเข้าใจธุรกิจตัวเองดีแบบ Inside and Out จะทำให้คุณเข้าใจความกังวลของลูกค้าตามมาเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน ที่การหาลูกค้าหน้าใหม่ไม่จำเป็นต้องไปขายถึงที่ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจและการตลาดแบบ Customer-centric ได้ ด้วยการเข้าใจธุรกิจ เข้าใจปัญหาของลูกค้า และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
2. ระบุ Target ให้ชัดเจน : กลุ่มลูกค้าหลักของเราเป็นใคร ?
เมื่อเข้าใจว่าธุรกิจของเราคืออะไร มีเพื่อแก้ปัญหาอะไรแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ คุณจะรู้ว่าใครที่ต้องการบริการหรือการแก้ปัญหาจากคุณ และนั่นคือกลุ่มลูกค้าหลักของคุณ เมื่อคุณรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักของคุณคือใคร จะยิ่งทำให้คุณโฟกัสที่จุดแข็งและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลัก
การระบุกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน จะช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาไปได้มากอีกด้วย เพราะคุณจะโฟกัสในบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักจริงๆ โดยสามารถอาศัยปัจจัยที่สำคัญ เช่น อายุ เพศ อาชีพ จุดร่วมของความสนใจ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต พฤติกรรมการบริโภค ฯลฯ ซึ่งคุณสามารถกำหนดปัจจัยเหล่านี้ให้ละเอียดหรือกว้างขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดเป็นหลัก
3. ทำตัวเองให้เป็นคำตอบสุดท้ายของลูกค้า
เพราะธุรกิจเกิดจากปัญหา และเกิดจากความต้องการของผู้บริโภค หากปริมาณความต้องการของบริโภคสูงมาก แต่กลับไม่มี ทางออกที่ตอบโจทย์หรือช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริงๆ ธุรกิจนั้นก็ยังไม่ถือเป็นคำตอบสุดท้ายของลูกค้า ยิ่งธุรกิจของคุณเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุดสำหรับลูกค้ามากเท่าใด ก็มีแนวโน้มที่ลูกค้าจะเกิดความรู้สึกผูกพัน กลายเป็น Loyal Customer และยังมีความเต็มใจที่จะช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงมากขึ้นอีกด้วย
บางธุรกิจอาจให้บริการเหมือนกัน เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน แต่คุณภาพและความใส่ใจแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ลูกค้าจะใช้ในการตัดสินใจมากที่สุด เป็นปัจจัยสำคัญว่าธุรกิจของคุณจะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับลูกค้าหรือไม่ เพราะฉะนั้นนอกจากเข้าใจธุรกิจของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว คุณต้องเข้าใจปัญหาของลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน เพื่อให้บริการและแก้ปัญหาในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้จริงๆ
4. ใช้เทคนิค Cold Calling : ปิดการขายผ่านการโทรศัพท์หาลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เทคนิค Cold Calling คือวิธีสุดคลาสสิคที่ไม่เคยล้าสมัย แม้ปัจจุบันเราจะมีโซเชียลมีเดียและช่องทางออนไลน์มากมาย แต่การโทรศัพท์ไปขายลูกค้ายังเป็นอีกวิธีที่ใช้ได้ผลในปัจจุบัน เพราะการโทรศัพท์ไปขายลูกค้านั้นถือเป็นวิธีที่คุณจะได้เข้าถึงลูกค้าตรงๆ รองลงมาจากการได้เจอหน้าลูกค้าตัวเป็นๆ เลยทีเดียว
การโทรศัพท์ทำให้คุณได้ยินเสียงปลายสายที่สามารถวิเคราะห์ผ่านเสียงได้ว่า ลูกค้าของคุณเป็นคนอย่างไร เปิดใจให้คุณมากน้อยแค่ไหน และยังเป็นประตูบานแรกที่วัดว่าคุณเป็นนักขายที่ดีหรือไม่ พูดง่ายๆ ก็คือ หากคุณเตรียมตัวดี มีสคริปต์ดี ให้บริการและตอบคำถามลูกค้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือหากคุณโทรหากลุ่มลูกค้าที่ถูกกลุ่ม ถูกคน ก็มีโอกาสที่คุณจะได้ลูกค้าหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก เพราะคุณสามารถควบคุมจำนวนลูกค้าที่คุณต้องการได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนในการโทรของคุณ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องออกไปเจอลูกค้าถึงที่เลยนั่นเอง
5. ใช้ช่องทาง Social Media ให้เป็นประโยชน์ : พัฒนาเว็บไซต์ให้น่าสนใจอยู่เสมอ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ไม่มีใครไม่ใช้โซเชียลมีเดีย แม้แต่ธุรกิจและองค์กรไม่ว่าขนาดใหญ่หรือเล็กก็ยังต้องพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์ในการสร้าง Corporate Branding หรือ Product Branding ให้น่าสนใจอยู่เสมอ และช่องทางที่แสดงภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือธุรกิจได้ดีที่สุดก็คือ เว็บไซต์นั่นเอง
เว็บไซต์ เปรียบเสมือนพื้นที่หรือสะพานที่เชื่อมคุณกับลูกค้าในโลกออนไลน์ได้จำนวนมากที่สุดและได้ผลที่สุดอีกด้วย โดยคุณสามารถสังเกตพฤติกรรมการการใช้สื่อของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณ จำนวนผู้เข้าชม เวลาในการหยุดอ่านรายละเอียดสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของคุณ เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจ Target ลูกค้าของคุณได้ และยังเป็นช่องทางที่จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
แม้โควิด-19 จะทำให้พฤติกรรมหลายอย่างของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงไลฟ์สไตล์ในการจับจ่ายซื้อของที่ไม่เหมือนเดิม เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมการบริโภคแบบใหม่ในปัจจุบัน ด้วย 5 วิธีดังกล่าว คุณอาจได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน และไม่จำเป็นต้องออกไปหาลูกค้าถึงที่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภคด้วยนั่นเอง